หลายคนมักเข้าใจผิดเรียก ขึ้นฉ่าย ตั้งโอ๋ สลับกัน อาจเพราะมีลักษณะบางส่วนที่คล้ายกัน ยังสามารถนิยมนำมาปรุงอาหารในเมนูคล้ายกัน เช่น ต้ม ผัด หรือ ทำน้ำซุป เราจะพาไปทำความรู้จักกับผักทั้ง 2 ชนิด อย่างละเอียด เพื่อให้เข้าใจถึงความต่างของพืชทั้ง 2 ชนิด
ขึ้นฉ่าย กับ ตั้งโอ๋ ต่างกันอย่างไร
1.ขึ้นฉ่าย หรือ ขึ้นฉ่ายจีน (Chinese Celery)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Apium graveolens L. เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ผักชี (APIACEAE) มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน
ลักษณะ :ทางพฤกษศาสตร์ของขึ้นฉ่ายจีน จะมีลำต้นกลวง มีกลิ่นหอมทั้งต้น มีอายุประมาณ 1-2 ปี ลักษณะของใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ขอบใบแยกเป็นแฉกลึก แต่ละแฉกเป็นรูปสามเหลี่ยม ใบมีสีเขียวอมเหลือง ก้านใบยาวแผ่ออกเป็นกาบสูงประมาณ 30 ซม.
วิธีปลูก : ขึ้นฉ่ายจีนสามารถปลูกได้ตลอดปี เริ่มตั้งแต่นำเมล็ดมาหยอดลงในหลุม 2-3 เมล็ด กลบดินให้มิด รดน้ำให้ชุ่ม ใช้เวลา 5-7 วัน เมล็ดจะเริ่มงอก จนมีอายุได้ประมาณ 15-20 วัน หรือ ต้นกล้ามีใบจริง 3-4 ใบ จึงย้ายปลูกลงแปลงได้ และ ไม่ควรย้ายกล้าในช่วงที่อากาศร้อนจัด ซึ่งจะสามารถเก็บเกี่ยวขึ้นฉ่ายได้เมื่อมีอายุ 40-50 วัน
2.ตั้งโอ๋ (Garland Chrysanthemum)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ Glebionis coronaria อยู่ในวงศ์ทานตะวัน (ASTERACEAE) มีถิ่นกำเนิดอยู่ในภูมิภาคแถบเมดิเตอร์เรเนีย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของตั้งโอ๋ มีใบเดี่ยวขนาดใหญ่ แผ่นใบยาวตั้งแต่โคนใบถึงปลายใบ ขอบใบหยักโค้ง แฉกเป็นหยักมน ใบมีความอ่อนนุ่ม บอบบาง ฉีกขาดได้ง่าย ก้านใบกลมมีขนาดเล็ก เวียนสลับตรงข้ามกันบนลำต้น รูปร่างคล้ายกับผักร็อกเก็ต (Eruca sativa) แต่เมื่อใกล้ถึงระยะออกดอก ก้านจะยาวขึ้นและใบจะเรียวเล็กลง สามารถสูงได้ 30-70 ซม. และ เมื่อเติบโตถึงระยะออกดอก แผ่นใบจะเรียวยาวและเว้าลึกมากขึ้น
วิธีปลูก : ตั้งโอ๋เป็นผักที่ปลูกในฤดูหนาว ช่วงเดือนธันวาคม – มกราคม ถึงจะเจริญเติบโตได้ดี ไม่ชอบแดดจัด สามารถปลูกได้ด้วยเมล็ดเริ่มเริ่มจากหว่านลงในกระถางปลูก แล้วกลบดินและรดน้ำให้ชุ่ม ใช้เวลา 2-3 วัน เมล็ดจะเริ่มงอก และเมื่อมีอายุได้ 2-3 สัปดาห์ หรือมีใบจริง 2-3 ใบ ก็ให้ย้ายปลูกได้ เมื่อมีอายุประมาณ 45 วัน หรือมีความสูงประมาณ 10-15 ซม. จึงสามารถเก็บเกี่ยวได้ หากตัดเฉพาะใบจะสามารถให้ผลผลิตได้เรื่อยๆ
จะเห็นได้ว่า “ตั้งโอ๋” และ “ขึ้นฉ่าย” นั้นมีความแตกต่างกันหลายอย่าง ตั้งแต่วงศ์พืช ลักษณะใบ ก้าน รวมถึงฤดูการเพาะปลูกที่ไม่เหมือนกัน คราวนี้ก็เข้าใจแล้ว จะได้ไม่สับสนเรียกผิดเรียกถูกอีกนะคะ