กระแส ต้นกัญชา กลายเป็นที่สนใจอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการปลดล็อกให้สามารถนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และอุตสาหกรรมได้ แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ “ใครกันแน่ที่สามารถปลูกต้นกัญชาได้?” และ “การปลูกจำเป็นต้องลงทะเบียนหรือไม่?” คำถามเหล่านี้เป็นประเด็นสำคัญที่ผู้สนใจต้องรู้ก่อนเริ่มลงมือปลูก เพราะไม่ใช่แค่ปลูกได้ตามใจ แต่ยังต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายอย่างเคร่งครัด
กฎหมายปลูกต้นกัญชาในประเทศไทย: เปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
ประเทศไทยเริ่มเปิดทางให้กับการใช้ต้นกัญชาอย่างถูกกฎหมายในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โดยเฉพาะการใช้ในทางการแพทย์ ภายใต้การควบคุมของกระทรวงสาธารณสุข แต่ยังคงมีกฎหมายที่จำกัดสิทธิในการปลูกอย่างชัดเจน การปลูกเพื่อใช้ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นในระดับครัวเรือนหรือเชิงพาณิชย์ ต้องมีการขออนุญาตอย่างเป็นทางการ
แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศปลดล็อกบางส่วน แต่การใช้ในเชิงนันทนาการยังถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย การปลูกที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือใช้โดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนตามที่กฎหมายกำหนด ก็ยังถือว่ามีความผิดอยู่
ใครบ้างที่มีสิทธิ์ปลูกต้นกัญชาอย่างถูกต้อง
สิทธิ์ในการปลูกต้นกัญชาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ภาคธุรกิจหรือหน่วยงานรัฐ แต่เปิดกว้างให้กับประชาชนทั่วไป โดยมีเงื่อนไขบางประการที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
บุคคลทั่วไป สามารถปลูกได้ในปริมาณจำกัด โดยจะต้องยื่นขอลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ของ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งจะต้องระบุวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน เช่น เพื่อใช้ในครัวเรือน ใช้ในการศึกษา หรือเพื่อการรักษา
เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่รัฐส่งเสริม โดยต้องรวมกลุ่มกันและยื่นเอกสารผ่านหน่วยงานที่ดูแลด้านเกษตรกรรม หรือกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงต้องมีแผนการปลูก การใช้ประโยชน์ และการควบคุมความปลอดภัยที่ชัดเจน
ผู้ประกอบการทางการแพทย์ หรือบริษัทผลิตยา เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับสิทธิ์ในการปลูกต้นกัญชาในเชิงพาณิชย์ ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานรัฐ และต้องมีการตรวจสอบคุณภาพการผลิตตามมาตรฐานที่กำหนด
การลงทะเบียนปลูกต้นกัญชา: ขั้นตอนและเงื่อนไขที่ควรทราบ
แม้การปลูกต้นกัญชาจะเปิดกว้างขึ้น แต่ผู้ที่ต้องการปลูกจะต้องดำเนินการลงทะเบียนให้ถูกต้อง ขั้นตอนที่สำคัญประกอบด้วย
- ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของ อย. โดยต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว รายละเอียดแปลงปลูก จุดประสงค์ และแนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง
- ระบุชนิดของต้นกัญชา ที่จะปลูกอย่างชัดเจน เช่น กัญชาทางการแพทย์ หรือสายพันธุ์เพื่อสกัดสาร CBD
- แจ้งแผนการดูแลและเก็บเกี่ยว รวมถึงมาตรการควบคุมไม่ให้เกิดการนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือรั้วกั้นพื้นที่
นอกจากนี้ ผู้ปลูกยังต้องยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ได้ทุกเมื่อที่ร้องขอ และหากพบว่ามีการละเมิดเงื่อนไข จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตทันที
ข้อควรระวังเมื่อปลูกต้นกัญชาแม้ได้รับอนุญาตแล้ว
แม้จะมีการอนุญาตอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ปลูกก็ยังคงต้องระวังในหลายเรื่อง เช่น
- หลีกเลี่ยงการปลูกในพื้นที่สาธารณะหรือใกล้โรงเรียน
- ห้ามโฆษณาหรือชักชวนให้ใช้ผลิตภัณฑ์จากต้นกัญชาในทางที่ผิด
- ต้องระวังการแพร่กระจายของกลิ่นที่อาจสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้าน
- ห้ามจำหน่ายหรือส่งต่อผลิตภัณฑ์กัญชาโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ
สิ่งเหล่านี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากละเลยก็อาจส่งผลให้เกิดความผิดทางกฎหมายและต้องรับโทษอย่างรุนแรง
บทสรุป: การปลูกต้นกัญชาในประเทศไทย ทำได้แต่ต้องรู้กติกา
การปลูก ต้นกัญชา ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้โดยเสรี แม้กฎหมายจะเปิดทางให้มากขึ้น แต่ทุกอย่างยังอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ชัดเจน ทั้งในเรื่องของผู้ที่มีสิทธิ์ การขอลงทะเบียน และการควบคุมความปลอดภัย
หากคุณกำลังคิดจะปลูกต้นกัญชา ไม่ว่าจะเพื่อใช้ส่วนตัว หรือเพื่อประกอบอาชีพ สิ่งแรกที่ควรทำคือศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และลงทะเบียนตามช่องทางที่รัฐกำหนด พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎหมายทุกข้ออย่างเคร่งครัด
เมื่อมีความรู้ ความเข้าใจ และการปฏิบัติที่ถูกต้อง การปลูกต้นกัญชาก็จะกลายเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ ส่งเสริมสุขภาพ และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ของประเทศได้อย่างยั่งยืน